คุณหมอตัวน้อย..คุณคาวบอยยอดรัก
(ชิป, แห่งไร่ฟลายอิ้งยู โดย : บี.เอ็ม. โบเวอร์)
บทที่ 9 - ก่อนฤดูการต้อนวัว
"หมอตัวน้อยอยากให้พวกเราทุกคนขึ้นไปที่ออฟฟิศเย็นวันนี้และฟังดนตรีกัน" แคลประกาศ โผล่เข้ามาในโรงนอนที่พวกผู้ชายกำลังคัดแยกและเก็บข้าวของของพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางกับเกวียนต้อนสัตว์ในตอนเช้า
แจ็ค เบทส์รีบยัดคอลเลกชั่นถุงเท้าและผ้าเช็ดหน้าสารพัดอย่างลงในถุงสงครามสะพายหลังของเขาและมุ่งไปยังกะละมังซักผ้า
"ฉันจะลองดูว่าเธอพูดจริงหรือเปล่า" เขากล่าวอย่างมุ่งมั่น
"มันไม่ใช่การหลอกลวงใดๆ หรอกน่า เธออยากให้พวกเราไป ไม่งั้นเธอคงไม่พูดแบบนั้น ฉันได้เรียนรู้มามากเกี่ยวกับเธอ นายน่าจะเห็นหน้าดั๊งค์ตอนมั่นใจตัวเอง! ฉันพนันได้เลยว่าเธอทำแบบนั้นแค่เพื่อกวนใจเขา และเธอก็ทำสำเร็จแน่ๆ ฉันอยากไปดูตอนนี้เลย แค่เพื่อดูเขาขยุกขยิก"
"ฉันสังเกตเห็นว่ามันทำให้เขารำคาญไม่ใช่น้อยที่เห็นคุณหมอตัวน้อยปฏิบัติกับพวกเราเหมือนคนชนชั้นสูง เขาเองก็กำลังพยายามจะเข้ามาอยู่ตรงนั้นด้วยตัวเอง ฉันพนันได้เลยว่าเขาจะโดนปฏิเสธอย่างแรง" เวียรีพูดอย่างร่าเริง
"แน่ใจอยู่แล้วว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนขว้างยาคนนั้นในโอไฮโอ" แคลเสริม "พวกนายคนไหนที่จะไปตามคำเชิญของเธอบ้าง? ฉันจะไปคนเดียวในพริบตานี้แล้ว"
"ฉันไม่คิดว่านายจะไปคนเดียว" แจ็ค เบทส์ยืนยันพร้อมกับคว้าหมวกของเขา
สลิมหวีผมอย่างรวดเร็วสองสามทีแล้วบอกว่าเขาพร้อมแล้ว ชอร์ตี้ที่เพิ่งกลับมาจากการขี่ม้า ปลดตะขอสเปอร์ออกแล้วเตะมันไว้ใต้เตียง
"คงต้องใช้เวลาหลายวันกว่าเราจะได้ยินเสียงแมนโดลินของคุณหมอตัวน้อยอีกครั้ง" แฮปปี้แจ็คบ่น
"เอ้า! เงียบปากเหอะ!" แคลตักเตือน
"ไปกันเถอะ ชิป" เวียรีตะโกนออกมา "นายสามารถทำลายกระดาษดีๆ ได้เมื่อนายทำอย่างอื่นไม่ได้ มาดูหน้าดั๊งค์สิว่ามันจะเป็นยังไงเมื่อเราจับจองเก้าอี้ตัวที่ดีที่สุดทั้งหมดได้ แล้วเทเครื่องหอมและความชื่นชมของเราให้กับคุณหมอตัวน้อย"
ชิปดึงบุหรี่ออกจากริมฝีปากและพ่นควันออกจากปอด
"พวกนายไปกันเถอะ ฉันไม่ไป" เขาก้มลงอีกครั้งเพื่อวาดภาพอันชั่วนิรันดร์ของเขาต่อไปอย่างไม่ลดละ
"อะไรนะ! นายไม่ไปเหรอ?!" เวียรีตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
ชิปไม่ได้พูดอะไรอีก ปีกหมวกสีเทาของเขาปิดบังใบหน้าของเขาจากการมองเห็น ยกเว้นริมฝีปากโค้งบางและคางที่กระชับ เวียรีศึกษาคางและริมฝีปากอย่างสงสัย และไม่ว่าเขาจะอ่านอะไรที่นั่น เขาก็งดเว้นจากการโต้แย้งเพิ่มเติม เขารู้จักชิปดีกว่าอื่นๆ มาก
"อ๊ะ เกิดอะไรขึ้นกับนายวะ เจ้าเสี้ยนไม้! มาเร็ว; อย่าทำตัวไร้สาระ" แคลตะโกนมาจากทางเข้าประตู
"ฉันเดาว่านายจะปล่อยให้คนได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ ใช่ไหม?" ชิปถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง ตอนนั้นเขากำลังยุ่งอยู่มากกับการแรเงาบริเวณหัวไหล่ของม้าที่กำลังยืนชัน เพื่อจะได้เห็นกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด
"เกิดอะไรขึ้นวะ? นายกับคุณหมอตัวน้อยทะเลาะกันเหรอ?"
"ไม่เลวร้ายหรอก" น้ำเสียงของชิปเปิดกว้างต่อการตีความหลายแบบ แคลตีความว่ามันเป็นการปฏิเสธ
"ป่วยเหรอ?" เขาถามต่อ
"ใช่!" ชิปตอบสั้นๆ และไม่เป็นความจริง
"ถ้าอย่างนั้นเราจะเรียกหมอมานะ" แจ็ค เบทส์อาสา
"ฉันไม่คิดว่านายจะต้องเรียกมาหรอก เมื่อฉันป่วยมากพอ ฉันจะบอกให้นายรู้ ฉันจะไปนอน"
"เอาล่ะ ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวเถอะ ฉันเดาว่าชิปดูแลตัวเองได้นะ" เวียรีพูดอย่างมีเมตตาขณะเปิดประตูค้างไว้
พวกเขายกโขยงกันออกไป และคนสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงของแคลโดยตั้งข้อสังเกตว่า:
"โห! ฉันจะต้องเตรียมพร้อมเสียก่อนก่อนที่ฉันจะพลาดโอกาสนี้ที่จะทำให้ดั๊งทุกข์ยาก"
ชิปนั่งอยู่ที่เดิมที่พวกเขาปล่อยเขาไว้ จ้องมองลงไปที่ภาพร่างที่ยังไม่เสร็จโดยไม่รู้ตัว บุหรี่ของเขาดับไปแล้ว แต่เขาไม่ได้ม้วนอันใหม่ ค้างไว้ด้วยบุหรี่ที่ไหม้ไปครึ่งหนึ่งไว้ระหว่างริมฝีปากของเขาซึ่งขีดเป็นเส้นตรงที่ขมขื่น
ทำไมเขาต้องสนใจว่าผู้หญิงคนหนึ่งคิดอย่างไรกับเขา? เขาไม่สนใจหรอก; เขามันแค่– ความคิดที่ว่านี้เขาไม่ได้ติดตามมันไปจนจบ แต่เริ่มต้นใหม่ทันที: เขาคิดว่าตัวเองคงจะโง่เขลาตามมาตรฐานตะวันออก เมื่อเทียบเคียงกับด็อกเตอร์เซซิล แกรนธัม ให้ตายเถอะ! เขาน่าจะดูน่าสมเพช ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาไม่เคยเห็นวิทยาลัยแม้แต่จากรั้วภายนอก ซึ่งยิ่งไม่ต้องพูดถึงการซึมซับความรู้ภายในเลย เขาได้เรียนรู้ภูมิปัญญาบางอย่างที่ธรรมชาติสามารถจะสอนให้แก่ผู้ที่อ่านภาษาของมันได้ และเขาก็อ่านมันมาแล้วมากมาย โดยการนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้ท้องฟ้าแห่งฤดูร้อน ขณะที่ฝูงวัวกำลังเล็มหญ้าอยู่รอบตัวเขา และม้าของเขาก็กำลังเล็มหญ้าแสนหวานในระยะที่เขาสามารถเอื้อมมือถึงได้ เขาสามารถท่องจำบทกวีของเชกสเปียร์, สก็อต และบ็อบบี้ เบิร์นส์ได้ทั้งหน้า เขาอยากจะลองอ่านบางหน้าของ ดร.เซซิล กับบทกวีเหล่านั้นบ้าง และดูซิว่าใครจะเหนือกว่ากัน ถึงกระนั้น เขาก็ยังโง่เขลา และไม่มีใครตระหนักได้ลึกซึ้งและขมขื่นมากไปกว่าชิป
เขาวางคางไว้บนกำปั้นมือและครุ่นคิดถึงอดีตที่เลวร้ายและอนาคตที่ไร้ความสุขของเขา เขาจำแม่ของเขาได้ และเขาไม่อยากจำพ่อของเขาซึ่งมีเมตตาต่อเขาน้อยกว่าคนแปลกหน้า นั่นคืออดีตของเขา และอนาคตล่ะ เขาจะต้องเป็นคนต้อนวัวตลอดไปเหรอ? เขามีความสามารถพิเศษในการวาดภาพ; ถ้าเขาสามารถศึกษาและฝึกฝนได้ บางทีแม้แต่คุณหมอตัวน้อยก็ไม่กล้าเรียกเขาว่าคนโง่เขลาด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าเขาจะใส่ใจสิ่งที่เธอพูดหรือไม่พูดก็ตาม แต่คนเราย่อมอดไม่ได้ที่จะเกลียดชังการถูกเตือนให้นึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขารู้ดีกว่าคนอื่นคนใด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี ไม่ว่าคุณจะพยายามปกปิดความน่าเกลียดของมันอย่างไรก็ตาม
ถ้า ดร.เซซิล แกรนธัม (ไอ้เวรตะไลนั่น!) ถูกเตะเข้ามาในโลกใบนี้และถูกบังคับให้ต่อสู้ชะตากรรมด้วยหมัดเล็กๆ ที่บอบบาง ซึ่งเพิ่งพ้นพวงแก้มยุ้ยๆ ของวัยทารกมาไม่นานเหมือนอย่างที่เขาเคยเป็น เขาจะมีค่าเท่ากับสิ่งใดหรือเปล่า? บางที ดร.เซซิล อาจจะเติบโตขึ้นมาเพียงคนธรรมดาสามัญและโง่เขลา และไม่เหมาะกับอะไรที่ดีไปกว่าการสร้างความบันเทิงให้กับแพทย์หญิงที่มีลักยิ้ม ตาโตสีเทา แถมยังมีเสียงหัวเราะแบบนั้น เขาอยากจะแสดงให้ผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นรู้ว่าเธอยังไม่รู้จักเขาทั้งหมด มันยังไม่สายเกินไปหรอก เขาอายุเพียงยี่สิบสี่ปีซึ่งยังมีเวลามากพอที่จะเรียนรู้ ทำงาน และไต่อันดับขึ้นไปจนถึงจุดที่เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง ไม่ใช่มองลงมาที่เขา..หากเธอใส่ใจมากพอที่จะมองดูเขาบ้าง มันยังไม่สายเกินไป เขาจะเลิกเล่นการพนันและเก็บเงินไว้ และในฤดูหนาวหน้า เขาจะมีเงินมากพอที่จะไปที่ไหนสักแห่งและเรียนรู้ที่จะวาดภาพที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีมูลค่าเท่ากับบางสิ่งบางอย่าง เขาจะทำให้เธอเห็น!
หลังจากย้ำคำมั่นในการตัดสินใจนี้อีกหลายครั้งอย่างหนักแน่น วิญญาณของชิปก็เบาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มากเสียจนถึงขนาดที่เขาม้วนบุหรี่มวนใหม่และวาดภาพในมือของเขาจนเสร็จ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ม้าป่าตัวร้ายกาจตัวหนึ่งได้โยนแจ็ค เบทส์ตกจากหลังมันลงมาในคอกม้าเมื่อเช้านี้
วันถัดมา ในช่วงบ่าย กลุ่มคนต้อนวัวก็ขึ้นไปที่เนินเขาและเริ่มต้นการเดินทางระยะไกล และหลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว ฟาร์มก็ดูเงียบสงบและโดดเดี่ยวมากสำหรับคุณหมอตัวน้อยผู้แก้แค้นตัวเองด้วยการเมินเฉยต่อดั๊งค์อย่างไม่ปรานี จนเขาประกาศความตั้งใจที่จะขึ้นรถไฟขบวนต่อไปเพื่อไปยังเมืองบัตต์ ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับความหรูหราของชีวิตโสดแบบร่ำรวย เนื่องจากคุณหมอตัวน้อยไม่แสดงอาการสำนึกผิดใดๆ เขาจึงขี่ม้าอย่างบูดบึ้งไปที่ดรายเลค และเธอใช้เวลาที่เหลือในช่วงบ่ายเขียนเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความลำเอียงอย่างแน่นอนส่งถึงด็อกเตอร์เซซิล เกี่ยวกับเรื่องที่เธอทะเลาะเบาะแว้งกับชิป ซึ่งเธอบอกว่าเธอค่อนข้างจะ—เกลียดเขามาก