* กดรับ Link นิยายรสแซ่บได้ที่ปกทุกปกเลยจ้าา *

niyayZAP Related E-Books Related E-Books Related E-Books Related E-Books Series E-Books niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books niyayZAP Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน niyayZAP Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP Related E-Books niyayZAP niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books  Series E-Books

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

#2 คุณหมอตัวน้อย..คุณคาวบอยยอดรัก

คุณหมอตัวน้อย..คุณคาวบอยยอดรัก

(ชิป, แห่งไร่ฟลายอิ้งยู โดย : บี.เอ็ม. โบเวอร์)

บทที่ 2 - ข้าม "สันหมู"

"นั่นไง ฟาร์มฟลายอิ้งยู" ชิปเอ่ยขึ้น ขณะที่พวกเขาเลี้ยวขวาอย่างรวดเร็วและเริ่มลงทางลาดยาวที่สร้างขึ้นบนไหล่เขาสูงชันและเป็นหิน เบื้องล่างของพวกเขาคือฟาร์มที่ตั้งอยู่ในหุบเหวแคบยาว บ้านพักอยู่ใกล้พวกเขามากที่สุด เป็นบ้านชั้นเดียว สีขาว กว้างขวาง มีเฉลียงกว้างและหน้าต่างบานใหญ่ ไกลลงไปในหุบเหว บริเวณเชิงเขาที่ลาดชัน มีโรงเก็บของคอกสัตว์ทรงกลมสูง และกองหญ้า ประตูไม้กระดานขนาดใหญ่กระจายอยู่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ ในขณะที่รั้วลวดหนามทอดยาวออกไปในทุกทิศทาง ลำธารเล็กๆ ริมน้ำมีต้นคอตตอนวูดและต้นหลิวที่แคระแกร็น ไหลคดเคี้ยวไร้จุดหมายไปตามหุบเหว

"เจ.จี. ดูเหมือนจะไม่มีวิธีจัดการอะไรมากนัก" มิสวิทมอร์พูดหลังจากสำรวจอย่างพิจารณา "จุดประสงค์ของกระท่อมไม้ซุงที่กระจัดกระจายอยู่บนเนินเขาเหล่านั้นคืออะไรน่ะ? มันดูเหมือนกับว่าเจ.จี. มีกระท่อมไม้ซุงที่เขาไม่ต้องการเต็มกำมือ แล้วก็แค่โยนมันลงไปแถวๆ คอกม้า และปล่อยให้มันตั้งอยู่ตรงนััน บนที่ที่มันบังเอิญตกลงมา"

"ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนั่นแหละ" ชิปยอมรับ "พวกมันเป็นแคมป์ที่พักของคนงาน .. พวกเราอยู่กันที่นั่น เป็นที่กินข้าว แล้วก็มีเพิงตีเหล็ก กับกระท่อมเล็กๆ ที่เราเก็บสิ่งของสารพัดอย่างไว้..และ—"

"อะไร .. ใน .. โลกา-า–า—"

เสียงตะโกนและเสียงปืนดังสนั่นมาจากเบื้องล่าง กลุ่มคนขี่ม้าที่วิ่งวุ่นอย่างยุ่งเหยิงก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือเนินเขาหลังบ้าน พวกเขาควบม้าลงมาครึ่งทางลาด แล้ววกไปโอบล้อมแคมป์ที่พักคนงานด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าขนลุก ชิปชะลอความเร็วของทีมม้าคู่สีครีมลง เหลือเป็นเพียงแค่จังหวะการย่างเท้าเดินและลอบแอบมองเพื่อนร่วมทางของเขาอย่างรวดเร็ว - ดวงตาของมิสวิทมอร์เบิกกว้างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจอกับความโกลาหลที่เกิดขึ้น เธอประหลาดใจอย่างสุดประมาณซึ่งชิปไม่อาจตัดสินได้ว่าเธอกลัวมันด้วยหรือเปล่า

เสียงตะโกนข่มขู่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเนินเขาดูเหมือนจะหดตัวลงด้วยความหวาดกลัว มิสวิทมอร์หายใจติดขัดกะทันหันเมื่อร่างอันอ่อนปวกเปียกถูกลากออกมาจากกระท่อม แล้วถูกยกไปไว้บนหลังเจ้าม้าโพนีที่กำลังฟ่อเสียงฟืดฟาด

"พวกเขาเอาเชือกผูกคอผู้ชายคนนั้นไว้นี่" เธอหายใจรวยรินด้วยความสยดสยอง "พวกเขาจะ ..แ-ข-ว-น.. เขาเหรอ?"

"ดูจากตรงนี้ มันเหมือนจะเป็นแบบนั้นแหละ" ชิปพูด แอบรู้สึกละอายอยู่ในใจ ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องร้ายกาจและขี้ขลาดที่พยายามทำให้ผู้หญิงที่เดินทางมาไกลท่ามกลางคนแปลกหน้า แถมริมฝีปากของเธอยังเผยอแสดงถึงความเหน็ดเหนื่อยอย่างอ่อนล้าเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องยุติธรรม มันเป็นการโกง ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะคำสัญญากับพวกหนุ่มๆ เขาก็คงจะบอกความจริงกับเธอตั้งแต่ตอนนั้นไปแล้ว

แต่มิสวิทมอร์ก็ไม่ใช่ผู้หญิงโง่เขลา แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงออกอะไรเลย แต่มันก็บอกทุกอย่างที่เธอจำเป็นต้องรู้ - เธอละสายตาจากกลุ่มคนที่กำลังโวยวายประกอบท่าทางและม้าที่กระวนกระวาย เธอหันมาจ้องหน้าชิปอย่างแหลมคม เขามองสบตาเธออย่างจริงจัง วูบหนึ่งที่ความสยดสยองเลือนหายไปจากเธอ เหลือเพียงความขุ่นเคืองปนขบขันที่พวกเขาพยายามหลอกลวงเธอเช่นนั้น

"รีบเร็วสิ" เธอสั่ง "จะได้ไปดูตอนจบ จำไว้ ฉันเป็นหมอนะ พวกเขากำลังมัดเขาไว้กับม้า และดูเหมือนว่าเขาจะตายเพราะความกลัวไปแล้วครึ่งหนึ่ง"

ในใจเธอเสริม: ‘เขาทำมากเกินไปในส่วนนี้อย่างโอเวอร์จริงๆ’

ขบวนม้าเล็กๆ ในหุบเหวระดมยิงปืนขึ้นฟ้าอย่างน่าตื่นตา แล้วก็พุ่งลงเนินเขาไปเหมือนลมกรดในฤดูแล้ง พวกเขาทะยานผ่านประตูใหญ่ และขึ้นถนนเลียบไปทางคอกม้า นักโทษถูกมัดมือมัดเท้าสิ้นไร้เรี่ยวแรงอยู่ท่ามกลางพวกเขา

แล้วบางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้นเมื่อ ‘ริเวอร์ เพรส’ กระดาษหนังสือพิมพ์ที่กางออกโบกสะบัดอยู่บนกิ่งของต้นหลิวโดยคาวบอยเวียรีที่ดึงดูดสายตาของ‘แบนโจ’ ม้าขนสีน้ำตาลอ่อน บนหน้าผากมีแถบสีขาวเล็กน้อยที่แบกนักโทษเอาไว้ มันย่อตัวลง ก้มถอยหลังอย่างกะทันหันจนเชือกบังเหียนหลุดออกจากนิ้วมือของสลิม แล้วลดหัวลงระหว่างขาหน้าสีขาวของมันอีกหน .. ซึ่งผู้ขี่ของมันดูโง่เกินกว่าที่แบนโจเคยเจอมา .. และมันก็เคยเจอมาแล้วหลายคน มันฟ่อเสียงขู่และพุ่งตัวออกไป ก่อนที่กลุ่มคนผู้มุทะโมนจะรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นท่ามกลางพวกเขา - นักโทษโซเซไปมาบนอานม้าอย่างเมามาย และในการกระโดดครั้งที่สาม หมวกของเขาก็หลุดออก เผยให้เห็นปลายท่อนแหลมคมของไม้สองท่อนทรงสี่เหลี่ยม

หนุ่มๆ ชาว 'ครอบครัวสุขสันต์' ครางออกมาเหมือนเป็นคนเดียวกัน แล้วก็รีบพุ่งออกไปไล่ตามผู้หลบหนี

ด้วยความร้ายกาจที่แทบจะเหมือนมนุษย์ของเจ้าแบนโจ มันกำลังวิ่งขึ้นถนน ตรงไปทางชิปและคุณหมอผู้หญิง .. และเธอน่าจะเป็นหมอที่แย่จริงๆ แถมยังน่าจะน่าเวทนามากด้วยถ้าเธอไม่สังเกตความผิดปกติที่กะโหลกศีรษะของเจ้าโจรขโมยม้า

แคล เอมเม็ทท์ขยับสเปอร์กระตุ้นม้าของเขา แล้วแซงหน้าสลิมไปเหมือนรถจักร ตะโกนคำหยาบคายไปด้วยขณะที่เขาวิ่งม้าไป

"ต้อนมันลงไปในลำธาร" แฮปปี้แจ็คตะโกน แล้วโน้มตัวลงต่ำเหนือคอของม้าสีออกน้ำตาลแดงของเขา

เวียรีลุกขึ้นยืนบนโกลน โบกหมวกพัดวีให้เจ้ากลอรี ม้าของเขา "เย้ ..ยะ-เฮ้! ไปเลย แบนโจ! ไอ้หนุ่มน้อย! ดูนายขี่สิ จะดูมั้ย? เขาเป็นคนขี่ม้าที่บังคับม้าป่าตัวฉกาจมานานแล้ว" ซึ่งเวียรีเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ดูเหมือนจะสนุกกับสถานการณ์นี้

"ถ้าชิปมีสติปัญญาที่จะชะลอความเร็วลงและให้โอกาสพวกเราบ้าง .. หรือไม่ก็ผลักหญิงชราคนนั้นตกจากคันดินลงไปซะ!" แจ็ค เบทส์คราง แล้วก็ฟาดแส้และกระตุ้นม้าด้วยสเปอร์เพื่อที่จะแซงม้าที่วิ่งหนี

ตอนนี้ นักโทษกำลังขี่ม้าคว่ำหน้า หัวทิ่มลง ภาพนั้นทำเอาเจ้าแบนโจตกใจแทบสิ้นสติ สิ่งที่มันเริ่มต้นด้วยการหยอกเย้าอย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้มันดำเนินต่อไปอย่างจริงจัง สิ่งมีชีวิตพิลึกกึกกือที่คล้ายกับคาวบอยผู้ขี่ม้าที่มันไม่สามารถโยนเขาลงมาจากหลังของมันได้ แต่กลับเกาะติดอยู่กับอานม้าของมันอย่างไม่มั่นคง มันไม่มีความคิดที่จะควบวิ่งอย่างซุกซนอีกต่อไป มันกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ตาคู่โตๆ ของมันเบิกกว้างแทบจะถลนและเอาแต่จ้องมองไปข้างหน้า

ทันใดนั้น ชิปก็เห็นอันตรายแฝงอยู่ใต้ความสนุกสนานนั้น เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อจับสายบังเหียนอีกครั้ง แล้วหยิบแส้ขึ้นมา: "เกาะให้แน่นนะ ผมจะตีหลังม้าตัวนั้นให้ไปถึงสันหมู"

ชิปหยุดหัวเราะ มิสวิทมอร์เองที่น้ำตาไหลเต็มตาในตอนนี้ก็หยุดหัวเราะและเกร็งตัวเองด้วยสัญชาตญาณโดยอัตโนมัติ; แต่นั่นคือก่อนที่เจ้าแบนโจจะพุ่งเข้าถนนบนเนินเขา ควบหนีไปอย่างบ้าคลั่งจากความหวาดกลัวต่อสิ่งที่ขี่อยู่บนอานม้าของมัน

แส้หวดไปบนหลังอันวาววับของม้าคู่สีครีมอย่างรวดเร็ว ม้าทั้งสองตัวก็วิ่งพรวดพราด รถบักกี้ยังใหม่และแข็งแรง ถ้าพวกเขาอยู่บนถนน ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย .. เว้นแต่พวกเขาจะเจอกับเจ้าแบนโจบนสันเขาแคบๆ ระหว่างเนินเขาสองลูกที่มียอดกว้าง ซึ่งเรียกว่าสันหมูอีกครั้ง และม้าคู่สีครีมก็วิ่งเร็วราวกับกวาง ล้อข้างหนึ่งทับไปบนก้อนหินและรถบักกี้ก็กระโจนอย่างรุนแรง

"อ๊ะ! หยุดสิ หมาป่าของฉันมันหล่นลงไปแล้ว!" มิสวิทมอร์ร้องขึ้น ขณะที่วัตถุสีเทาเลื่อนไหลลงไปใต้ล้อหลัง

"เกาะไว้แน่นๆ ไม่งั้นคุณจะหล่นเป็นคนต่อไป" นั่นคือทั้งหมดที่เธอได้รับเป็นการปลอบประโลม ขณะที่ชิปเตรียมตัวรับมือกับการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้า พวกเขามาถึงสันหมูแล้ว แต่แบนโจกำลังวิ่งขึ้นเนินเขาเบื้องหลัง รูจมูกของมันแดงก่ำและพ่นออกมา ด้านข้างของมันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ และที่เบื้องหลังของมัน เหล่าคาวบอยแห่งฟลายอิ้งยูวิ่งไล่ตามมันมาอย่างสิ้นหวัง เพื่อที่จะพยายามต้อนมันกลับลงไปในหุบเขาก่อนที่จะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น

ชิปสูดหายใจเข้าอย่างแรงเมื่อม้าคู่สีครีมหันเหออกไปบนยอดเขาที่กว้างขวาง ขณะที่แบนโจวิ่งโครมครามผ่านไปโดยไม่มีอะไรเหลืออยู่บนตัวผู้ขี่นอกจากขา แถมขาก็ยังดูผอมเพรียวลงไปเพราะฟางที่ร่วงหล่นออกมาบนถนน

อันตรายใหม่ปรากฏขึ้นในสำนึกต่อหน้าของชิปอย่างรวดเร็ว: ม้าคู่สีครีมที่คลั่งไปกับความตื่นเต้นกำลังวิ่งหนี ชิปบังคับพวกมันให้อยู่บนถนนอย่างเคร่งครัด และปล่อยให้โชคชะตาเป็นฝ่ายหยุดพวกมัน ในใจก็ขอบคุณพระคุณเจ้าที่มิสวิทมอร์ดูเหมือนจะไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ชอบกรี๊ด

'พวกนอกกฎหมาย' รีบเบี่ยงออกจากถนนและแล่นลงไปตามร่องน้ำจนพ้นสายตา ขณะที่ม้าคู่สีครีมพุ่งตัวลงจากเนินที่ชันและข้ามลำธารตื้น โชคดีที่ประตูบานใหญ่หน้าคอกม้าเปิดกว้างอยู่ พวกมันพาพวกเขาวิ่งทะลุประตูขึ้นไปตามทางลาดยาวและชันสู่ตัวบ้านและควบคุมตัวเองได้มากขึ้นทุกย่างก้าว จนกระทั่งด้วยความพยายามอย่างสูงสุด ชิปจึงนำพวกมันที่หายใจหอบแรงมาหยุดอยู่หน้าระเบียงบ้านหลังใหญ่ ซึ่งมีเจมส์ จี.ยืนเดือดพล่านด้วยความวิตกกังวล .. เจมส์ จี. วิทมอร์ ไม่ใช่ผู้ชายที่รับมือกับเรื่องต่างๆ อย่างใจเย็นนักหรอก - ถ้าเขาเป็นผู้หญิง คงจะถูกเรียกว่ายัยคนจู้จี้จุกจิก

"นี่นายกำลังจะเอาทางลาดไปทำสนามแข่งม้าอะไรกันวะเนี่ย!" เจมส์ จี. ตะโกนคำถามหลังจากที่เขาฝากจูบอย่างรวดเร็วไว้ข้างจมูกของน้องสาวของเขาแล้ว

ชิปวางหีบเดินทางใบใหญ่ลงบนระเบียงแล้วหยิบกีตาร์ก่อนที่จะตอบว่า

"ผมแค่ลองสปริงใหม่ของรถบักกี้เฉยๆ"

"มันน่าตื่นเต้นมากเลยล่ะ" มิสวิทมอร์พูดอย่างร่าเริง "ฉันยิงหมาป่าได้ด้วยแหละ เจ.จี. แต่เราทำมันหล่นหายไปตอนลงเนิน คนของคุณกำลังเล่นเกมตลกๆ อยู่ - มันดูเหมือนกับ 'กระต่ายกับสุนัข' อ๊ะ! หรือว่าพวกเขากำลังฝึกม้าตัวใหม่?"

นายใหญ่มองไปที่ชิป แววฉลาดเฉลียวปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้มที่จริงจังของเขา เขารู้ว่ามีบางอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ แต่เขาหลับอยู่ตอนที่ความโกลาหลเริ่มต้นขึ้น และกระเด้งตัวมาถึงประตูทันทีที่เห็นม้าคู่สีครีมพุ่งลงเนินมาเหมือนกับดาวตกในตอนกลางวัน

"ฉันเดาว่าพวกเขาคงจะกำลังฝึกม้าป่า" เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ "ของเยอะแยะเหมือนจะเดินทางรอบโลกเลยนะ เดลล์ ฉันหวังว่ามันจะไม่ใช่ยาพิเศษสำหรับพวกเราคนโชคร้ายหรอกนะ; เอ่อ บอกชอร์ตี้ให้หน่อยว่าฉันอยากเจอเขานะ ชิป"

ชิปดึงบังเหียนออกจากมือของนายใหญ่ กระโดดขึ้นรถแล้วขับกลับลงเนินไปที่คอกม้า

'คณะกรรมการต้อนรับ' ที่ชิปตั้งชื่อให้พวกเขาอย่างเหน็บแนมไปไล่จับม้าที่เตลิดหนีกลับมาได้แล้ว และแอบย่องกลับไปยังฟาร์มโดยใช้เส้นทางใต้หุบเหว ด้วยถ้อยคำหยาบคายมากมาย พวกเขาถอดอานม้าและกางเกงรัดรูปที่รุ่มร่ามออกจากเจ้าแบนโจ ม้าผู้น่าสงสารและเสื่อมเสียชื่อเสียง และเตะมันออกจากคอกม้าไป

"แผนการของแจ็ค มันก็ออกมาแบบนี้แหละ" สลิมบ่น "ให้ตายสิ! นายจะไม่ให้ฉันเข้าไปพัวพันกับเรื่องแย่ๆ แบบนี้อีกนะ!"

"นายอาจจะอธิบายได้นะว่าทำไมปล่อยให้ไอ้เวรตะไล ม้าป่าตัวนั้นหนีไปได้!" แจ็คโต้ตอบอย่างหงุดหงิด "ถ้านายทำหน้าที่ของตัวเอง เรื่องทุกอย่างมันก็จะราบรื่นเหมือนกับผ้าไหม"

"สงสัยว่าหญิงชราจะคิดยังไงนะ" เวียรีแทรกขึ้นมา ตั้งใจจะรักษาความสงบสุขในกลุ่มครอบครัวสุขสันต์

"เธอคงไม่ทันจะเห็นพวกเราเลยด้วยซ้ำ!" แคลหัวเราะ "เจ้าเสี้ยนไม้คงทำเอาคุณหมอแทบแย่แน่ๆ แค่เกาะรถไว้ก็แย่แล้ว! ทางลาดชันที่พวกเขาวิ่งลงมานี่ไม่ช้าเลยนะ พวกเขาเกือบจะวิ่งชนกับเจ้าแบนโจบนเนินเขาสันหมูไปอย่างเฉียดฉิวเลยเชียว นี่ถ้ามันชนกันจริงๆ คุณหมอผู้หญิงก็คงแย่ไป ชิปเองก็คงแย่ไปด้วย - โอ้โห! มันหวุดหวิดแทบตายเลยนะ!"

"เออ" แฮปปี้แจ็คพูดขึ้นอย่างเศร้าโศก "ถ้าพวกเราไม่โดนไล่ออกเพราะเรื่องนี้ก็คงน่าแปลกใจเลยแหละ มันเป็นเรื่องแย่ที่สุดที่พวกเราเคยทำเลยนะ"

"นอกเสียจากครั้งโน้นที่เราเอาสังกะสีผูกกับหางวัวจรจัดตัวนั้น ช่วงฤดูหนาวที่แล้ว" เวียรีแก้ไขข้อความ หัวเราะคิกคักไปกับความทรงจำขณะที่เขาปิดประตูบานใหญ่ไว้ด้านหลังพวกเขา

"เออ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งแผนโง่ๆ ของแจ็ค" สลิมผู้จริงจังกับชีวิตเสริม "เอาสังกะสีไปผูกกับหางวัวหนุ่มสี่ขวบ แล้วปล่อยให้มันวิ่งไล่ตามนายใหญ่และพาเขาไปจนแต้มที่โรงเลี้ยงลูกวัว และเจมส์ จี.ก็โมโหสุดๆ - ให้ตายเหอะ! มันไม่ได้ช่วยโรคข้อเสื่อมของเขาเลยสักนิด"

"นายโดนไล่ออกแน่ๆ เรื่องนี้" แฮปปี้แจ็คยืนยันอีกครั้งด้วยความมั่นใจอย่างโศกเศร้า 

"นั่นไง เจ้าเสี้ยนไม้อยู่ที่แคมป์พักคนงาน - กำลังวาดรูปพวกเราอยู่ ฉันพนันเป็นดอลลาร์เลยก็ได้ - เฮ้ ชิป! เป็นไงบ้าง พักฟื้นเรียบร้อยหรือยัง?" เวียรีตะโกนออกมา เสียงอันแจ่มใสของเขาที่แสดงอารมณ์ว่า ไม่ว่าภัยพิบัติอะไรก็ไม่อาจจะมาเลอะเปรอะเปื้อนมันได้

ชิปมองพวกเขาแว่บหนึ่งแล้วก็ก้มอ่านเนื้อหาจากนิตยสารเก่าเล่มล่าสุดที่เขาหยิบมาจากร้านตัดผมที่ดรายเลค: แคล เอมเม็ทท์ เดินตรงเข้ามาแล้วคว้าหมวกสีเทาใบย้วยออกจากหัวของเขา และเริ่มใช้มันเป็นลูกฟุตบอล

"นี่! เอาหมวกคืนมา!" ชิปสั่งการพร้อมกับหัวเราะ "อย่าเอาจอห์น บี. สเต็ทสันใบใหม่ของฉันไปทำเป็นเศษผ้าเช็ดจานเลย แคล มันจะใส่ไปงานเต้นรำไม่ได้นะ"

"โห! มันก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากเศษผ้าเช็ดจานอยู่แล้ว ถ้าฉันเป็นคนตัดสินนะ ตอนนี้! โอ คุณพระคุณเจ้า!" เขาถือหมวกไว้ระยะแขนแล้วมองดูมันด้วยท่าทีเยาะเย้ย

"เอ่อ หมวกมันใหม่เมื่อสองปีที่แล้ว" ชิปอธิบาย พยายามคว้าหมวกกลับคืนมาอย่างไม่สำเร็จ

แคลโยนหมวกคืนให้ชิปแล้วเดินมานั่งลงบนส้นเท้า สอดส่ายสายตาข้ามแขนของชิปไปที่นิตยสาร

"คุณหมอหญิงเป็นยังไงบ้าง?" แจ็ค เบทส์ถาม เอนตัวพิงประตูขณะที่เขาคลึงบุหรี่

"กลัวแทบตายเลย ฉันเลยทิ้งซากเธอไว้ในอ้อมแขนของเจมส์ จี."

"เธอตกใจจริงๆ เหรอ?" แคลเลิกสนใจนิตยสาร 'สาวสวยประเภทต่างๆ'

"เธอว่าอะไรมั้ยตอนที่เราหนีออกมา?" แจ็คขีดไม้ขีดกับท่อนซุงอย่างแรงๆ

"ไม่มีอะไร; เออ เธอถามว่า ‘พวกเขาจะ .. แ-ข-ว-น .. เขาเหรอ?" เสียงของชิปเลียนเสียงแหลมปรี๊ด สั่นเครือกับคำพูดนั้น

"โธ่เอ๊ย! เธอพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอ!" แจ็คหัวเราะอย่างพอใจ

"เธอพูดอะไรตอนที่นายเร่งม้าคู่สีครีมขึ้นไปน่ะ? ฉันไม่คิดว่าหญิงชราจะรู้ความจริงที่ว่านายได้ช่วยชีวิตเธอไว้ตอนนั้นหรอก .. แต่นายช่วยชีวิตเธอไว้จริงๆ นะ นายเก่งมาก ชิป" แคลยกมือตบเข่าชิปด้วยความชื่นชม

ชิปหน้าแดงก่ำเพราะคำชม รีบตอบเพียงคำถามแรกเริ่ม

"เธอตะโกนออกมาว่า ‘หยุดสิ! หมาป่าของฉันมันหล่นลงไปแล้ว! ’"

"หมาป่าของเธอ?"

"หมาป่าของเธอเหรอ?"

"เธอเอาหมาป่ามาทำอะไร?"

พวกครอบครัวสุขสันต์ยืนตะลึง พอๆ กับที่เห็นแววหัวเราะในดวงตาของชิป

"หมาป่าของเธอ - พวกนายคนไหนเคยเห็นหมาป่าตัวที่ตายแล้วอยู่บนทางลาดบ้างไหม? เพราะถ้านายเคยเห็น นั่นแหละ มันเป็นของหมอผู้หญิงนะ"

เวียรีเดินตรงเข้ามาอย่างตั้งใจ จับที่ไหล่ของชิปแล้วดึงเขาให้ลุกขึ้นด้วยการกระชากเพียงครั้งเดียว

"อย่าพยายามปาภาระอะไรมาใส่พวกเรานะ ไอ้เจ้าหนุ่มน้อย ตอบฉันตามความจริง .. ขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยนายด้วยแล้วกัน คุณป้าคนนั้นได้หมาป่ามายังไง .. ตัวที่ตายแล้วน่ะเหรอ?"

ชิปดิ้นหลุดแล้วหยิบซองบุหรี่ของเขา 

"เธอเป็นคนยิงมัน" เขาตอบอย่างใจเย็น แต่ริมฝีปากกระตุก

"ยิงมัน!" ห้าเสียงประสานกันเป็นเสียงสะท้อนด้วยความไม่เชื่อ

"ยิงด้วยอะไร?" เวียรีถาม เมื่อเขากลับมาหายใจได้ในจังหวะปกติอีกครั้ง

"ด้วยปืนไรเฟิลของฉัน ฉันเอามันมาจากเมืองวันนี้ เบิร์ท โรเจอร์สเอามันมาฝากไว้ที่ร้านตัดผมให้ฉัน"

"โห! แล้วม้าคู่สีครีมน่ะ เกลียดปืนเหมือนยาพิษเลยนะ! เธอไม่ได้ยิงมันจากบนรถบักกี้หรอก ใช่ไหม?"

"ใช่" ชิปพูด "เธออยู่บนรถบักกี้ ครั้งแรกเธอไม่ได้รู้ดีกว่านั้น .. และครั้งที่สองเธอโมโหที่ฉันพูดเป็นนัยว่าเธอกลัว เธอก็เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่มีจิตใจนักสู้อย่างยิบตาที่ยอดเยี่ยมเลยแหละ และตอนนี้เธอกำลังยุ่งอยู่กับการเกลียดฉัน ที่ฉันขับรถพุ่งจี๋ลงเนิน .. โดยคิดว่าฉันทำมันเพื่อทำให้เธอหวาดกลัว ฉันเดาว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ผู้หญิงโง่ๆ บางคนคิด"

"ถ้าอย่างนั้นเธอก็เป็นพวกชอบล่าสัตว์ตัวยุ่งเหยิง!" แคลคราง เขาคือผู้ชายที่ชอบผู้หญิงหวานแหววมากกว่า

"ไม่หรอก .. ฉันมองว่าเธอเป็นม้าที่ไม่ยอมอยู่ในฝูง"

"เธอเป็นยังไง?"

"เธออายุเท่าไหร่?"

"ฉันไม่เคยถามอายุเธอเลย" ชิปตอบ รอยยิ้มฉายแว่บๆ บนใบหน้าของเขา "สำหรับรูปลักษณ์ของเธอ เธอไม่ได้ตาเหล่ และเธอไม่ได้สายตาสั้น แค่นั้นแหละที่ฉันสังเกตเห็น" หลังจากการโกหกหน้าตายคำโตนี้แล้ว เขาก็หันไปยุ่งกับบุหรี่ของเขา "เอานิตยสารนั้นมาให้ฉันซิ แคล ฉันยังอ่านไม่จบ"


ฝากติดตามผลงานแบบฉบับอีบุ๊คที่นี่นะคะ
♥ #romancenovels #love #classic #romantic #fiction #western #Cowboy #ChipOfTheFlyingU #2024Trends สุดปัง .⋆。~˚ ♥

นิยายสั้น..มันส์..แซ่บซ่าน ที่ใครได้อ่านจะนิพพานสีชมพู~*